วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551

คอนโดฯ โตแรงไม่หยุด..

บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์...สะดุด
ชีบี ริชาร์ด เอลลิส ยังรายงานด้วยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบยิงตรงไปที่ตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ ในช่วงที่ผ่านมาเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมืองหนักที่สุด ทำให้ตลาดทรงตัวไปจนถึงทรุดตัว จากสถิติในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2550 มีบ้านจัดสรรใหม่สร้างเสร็จเพียง 7,054 หลัง ลดลง 22.7% ส่วนทางน์เฮาส์ใหม่สร้างแล้วเสร็จ 4,560 หลัง ลดลง 15.7% โดยภายในสิ้นปี 2550 คาดว่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยใหม่ลดลงจากปี 2549 ประมาณ 20% ทั้งนี้ ตลาดที่าการซื้อขายกันอยู่เป็นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตลาดระดับกลาง และตลาดล่าง ภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือด ดูได้จากการระเบิดแคมเปญของแต่ละค่าย ลด-แลก-แจก-แถม เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด สำหรับในปี 2551 คาดว่าบ้านเดียว และทาวน์เฮาส์ จะดีขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นกับเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีความชัดเจนจะส่งผลให้การเติบโตชะลอออกไปอีก หรือเป็นไปอย่างช้าๆ ภาพรวมอสังหาฯหดตัว 75%
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 24 โครงการ รวมจำนวน 10,524 ยูนิต แยกเป็นบ้านเดี่ยว 2,661 ยูนิต ทาวน์เฮาส์ 3,996 ยูนิต และห้องชุดคอนโดมิเนียม 3,867 ยูนิต คิดเป็นจำนวนยูนิตเฉลี่ยต่อโครงการ 439 ยูนิต ลดลงประมาณ 75% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวนโครงการที่ได้รับการส่งเสริม 36 โครงการ รวม 42,635 ยูนิต คิดเป็นจำนวนยูนิตเฉลี่ยต่อโครงการประมาณ 1,184 ยูนิต "หากดูรายละเอียดตามประเภทจะเห็นได้ว่ายอดขอจัดสรรมีขนาดโครงการที่เล็กลง และจำนวนยูนิตของคอนโดลดลงมากที่สุดจากที่ปีก่อนมี 30,886 ยูนิต แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้กลับมียอดอนุมัติเหลือเพียง 3,867 ยูนิต ลดลงเกือบ 90% ส่วนบ้านเดี่ยวลดลง 40% และทาวน์เฮาส์ลดลง 45% ตามลำดับ" นายสัมมา ยังบอกว่า สำหรับในไตรมาส 3 ปี 2550 เพียงไตรมาสเดียว มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเพียง 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ 162 ยูนิต นนทบุรี 965 ยูนิต สมุทรปราการ 224 ยูนิต ฉะเชิงเทรา 358 ยูนิต ชลบุรี 292 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม แต่ไม่มีประเภทบ้านเดี่ยว อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมาการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในที่อยู่อาศัยมีรวมกันปีละไม่เกิน 10,000 ยูนิต แต่ตั้งแต่ปี 2548 มีถึง 36,175 ยูนิต และเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัวเป็น 61,331 ยูนิต ในปี 2549 ส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในบางส่วนของโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2549 มีที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากถึงประมาณ 35,200 ยูนิต แต่ในรอบ 9 เดือนแรกปี 2550 มีที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพียง 4,100 ยูนิตเท่านั้น
เอกชนขอปรับราคาเกิน 6 แสนบาท
ทางด้านนางหิรัญญา สุจินัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมามีภาคเอกชนได้พยายามที่จะขอให้บีโอไอปรับขึ้นราคาบ้านที่ให้การส่งเสริมการลงทุนจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 6 แสนบาทต่อยูนิต ให้เกินกว่า 6 แสนบาท เนื่องจากวัสดุก่อสร้างปรับราคาขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางบีโอไอต้องพิจารณาให้ละเอียดให้ชัดเจน แต่ยอมรับว่าในช่วง ปี 2549-2550 มีเอกชนขอรับการส่งเสริมบ้านบีโอไอมากขึ้น ทั้งนี้จนถึงปัจจุบันมีบ้านที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้วประมาณ 130,000 ยูนิต

Sexycat ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก บิสิเนสไทย

ไม่มีความคิดเห็น: